F-35 Lightning II เป็นเครื่องบินขับไล่ (Fighter Jet) รุ่นใหม่ที่เกิดจากโครงการ Joint Strike Fighter (JSF) โครงการนี้เปิดตัวในปี 1992 โดยควบคุมโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ที่มีความสามารถหลากหลายและค่าใช้จ่ายต่ำ
F-35 ถูกออกแบบโดยบริษัท Lockheed Martin และมี 3 รุ่นหลัก ได้แก่ F-35A (เครื่องบินขับไล่ธรรมดา) F-35B (เครื่องบินขับไล่ที่สามารถบินขึ้นและลงด้วยวิธี Vertical Takeoff and Landing – VTOL) และ F-35C (เครื่องบินขับไล่สำหรับใช้บนเรือบินควบคุม)
เครื่องบิน F-35 ตั้งแต่เริ่มต้นมีเป้าหมายในการแทนที่หลายรุ่นของเครื่องบินขับไล่เดิมที่ใช้อยู่ โดยเฉพาะเครื่องบินขับไล่รุ่น F-16 Fighting Falcon, F/A-18 Hornet และ AV-8B Harrier II ซึ่งมีอายุการใช้งานมากขึ้น
F-35 มีความสามารถในการประชันอากาศ ป้องกันและโจมตีเป้าหมายบนพื้นดิน และรับภารกิจทางการรบสำคัญอื่น ๆ นอกจากนี้ยังเน้นความสามารถในการป้องกันตัวเองและทำลายเป้าหมายโดยไม่ถูกตรวจจับ (stealth) ทำให้เครื่องบินนี้เป็นอยางหนึ่งที่มีความสามารถเฉพาะเจาะจง และควบคุมความสามารถในการต่อสู้ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
หนึ่งในความสำเร็จของ F-35 คือการประสานงานและการแบ่งปันข้อมูลระหว่างเครื่องบินและหน่วยที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบการต่อสู้ ด้วยระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย ทำให้เครื่องบิน F-35 สามารถประสานงานกับเครื่องบินเพื่อนร่วมทีม ยานพาหนะข้างพื้น และหน่วยอื่น ๆ ที่ร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจ
F-35 ได้รับการพัฒนาและสนับสนุนโดยหลายประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา รวมถึงออสเตรเลีย, แคนาดา, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, สหราชอาณาจักร, และเดนมาร์ก ปัจจุบัน F-35 ได้เริ่มถือครองสถานะเป็นเครื่องบินขับไล่หลักของหลายกองทัพอากาศ
อย่างไรก็ตาม F-35 ยังเผชิญกับปัญหาต่างๆ รวมถึงความสามารถในการตรวจจับที่ต่ำกว่าที่คาดหวัง ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและดำเนินการที่สูง และปัญหาในการส่งมอบสู่กองทัพของหลายประเทศ แต่ส่วนใหญ่ F-35 Lightning II ยังคงเป็นเครื่องบินขับไล่ที่มีความสามารถหลากหลายและทันสมัย ซึ่งได้รับการยอมรับในเชิงการรบและการป้องกันประเทศ ปัจจุบัน F-35 กำลังถูกนำไปใช้ในการฝึกอบรม และการปฏิบัติภารกิจทางการรบทั่วโลก
F-35 ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีและประสบการณ์ที่สะสมมาจากเครื่องบินขับไล่รุ่นก่อนๆ เช่น F-16, F/A-18 และ F-22 Raptor ทำให้ F-35 ได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และเปิดโอกาสให้กับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาเครื่องบินขับไล่ในอนาคต
ในอนาคต F-35 จะยังคงพัฒนาตัวเองและปรับปรุงความสามารถ ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงระบบอิเล็กทรอนิกส์ การเพิ่มพลังการโจมตี และการปรับปรุงการป้องกันตัวเอง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางกาลวิทยาที่เกิดขึ้นในสนามรบ ทั้งนี้ F-35 จะยังคงเป็นเครื่องบินขับไล่ที่สำคัญในกองทัพอากาศของหลายประเทศในปีต่อๆ ไป
ในที่สุด F-35 Lightning II ยืนยันความสำคัญของเครื่องบินขับไล่ทันสมัยในศตวรรษที่ 21 และเปิดโอกาสให้กับการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ที่มีความสามารถสูงขึ้นและเทคโนโลยีใหม่ในอนาคต อีกทั้ง F-35 ยังเป็นตัวอย่างในการร่วมมือทางการพัฒนาเครื่องบินระหว่างหลายประเทศ ซึ่งส่งผลให้สามารถแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและดำเนินการ
ด้วยความสามารถของ F-35 ในการประชันอากาศ ป้องกันและโจมตีเป้าหมายบนพื้นดิน การป้องกันตัวเองและทำลายเป้าหมายโดยไม่ถูกตรวจจับ (stealth) รวมถึงการประสานงานและการแบ่งปันข้อมูลระหว่างเครื่องบินและหน่วยที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบการต่อสู้ F-35 จึงถือเป็นเครื่องบินขับไล่ที่นำทางในการปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติภารกิจทางการรบของกองทัพอากาศ
อย่างไรก็ดี ควรให้ความสำคัญกับการควบคุมค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและดำเนินการของ F-35 เพื่อให้สามารถส่งมอบประโยชน์ที่เหมาะสมและคุ้มค่าในการใช้งาน นอกจากนี้ ยังต้องรักษาและพัฒนาความสามารถในการป้องกันความปลอดภัยของระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ F-35 เพื่อให้สามารถรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์และการคุกคามทางเทคโนโลยีในอนาคตได้
F-35 Lightning II จะต้องรับความท้าทายและความก้าวหน้าในอนาคต และไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาตัวเองเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงและความต้องการของกองทัพอากาศ ด้วยการปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง หากสามารถบริหารจัดการปัญหาและควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ F-35 จะยังคงเป็นเครื่องบินขับไล่ที่สำคัญและยืนยันความสำคัญในสนามรบของศตวรรษที่ 21 และอนาคต
ทั้งนี้ F-35 ยังส่งเสริมความสามารถในการป้องกันและเสริมสถาบันการทหารร่วมของประเทศพันธมิตร พวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้งาน F-35 และพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสมในการต่อสู้ร่วมกัน ดังนั้น F-35 Lightning II ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือและความแข็งแกร่งของพันธมิตรทางการทหารในปัจจุบันและอนาคตอันก้าวหน้าที่เราจะเห็นไปด้วยกัน
