ในหมู่บ้านชายทะเลแห่งหนึ่งที่เงียบสงบ มีเรื่องเล่าลือกันว่า ทุกครั้งเมื่อพระจันทร์เต็มดวง ผีไต้ทะเลจะปรากฏขึ้นมาจากความมืดมิดของทะเล มันเป็นวิญญาณของนักเดินเรือที่พลัดพรากจากครอบครัวและไม่สามารถหาทางกลับบ้านได้ เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อวันหนึ่ง ชาวบ้านได้ยินเสียงร้องเรียกแห่งความเศร้าโศกจากทะเลในเวลากลางคืน
ประมงชายหนุ่มชื่อว่าสมชาย ได้ตัดสินใจล่องเรือออกไปในคืนพระจันทร์เต็มดวง เพื่อหาคำตอบของเสียงร้องลึกลับนั้น แต่เขาไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะนำพาเขาไปสู่การเผชิญหน้ากับผีไต้ทะเลอย่างที่ไม่เคยมีใครประสบมาก่อน
ขณะที่สมชายกำลังล่องเรืออยู่นั้น เขาเริ่มได้ยินเสียงร้องที่น่าขนลุก และเรือของเขาก็เริ่มเคลื่อนไปโดยไม่สามารถควบคุมได้ เสียงร้องนำเขาไปยังที่ที่คลื่นซัดเซาะอย่างรุนแรง และทันใดนั้น เขาก็พบกับเงาของผีไต้ทะเลที่ปรากฏขึ้นมาจากความมืด ผีไต้ทะเลมีรูปลักษณ์ที่น่ากลัว ดวงตาของมันเป็นสีแดงเรืองรอง และมันสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วในน้ำ
ผีไต้ทะเลเริ่มเล่าเรื่องราวของมันให้สมชายฟัง ว่ามันเคยเป็นนักเดินเรือที่ออกเดินทางไปทั่วโลก แต่ในหนึ่งคืนที่พายุถล่มหนัก มันได้ตกน้ำและสูญหายไป ตั้งแต่นั้นมา มันก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานและความโศกเศร้า มันถูกผูกพันกับทะเลและไม่สามารถกลับไปหาครอบครัวของมันได้
ผีไต้ทะเลขอให้สมชายช่วยหาซากเรือที่มันเคยเดินทางมา เพื่อให้วิญญาณของมันได้พักผ่อนอย่างสงบ สมชายตกลงที่จะช่วย และใช้เวลาหลายวันในการค้นหา จนกระทั่งเขาพบซากเรืออยู่ใต้น้ำลึก หลังจากที่สมชายได้ทำพิธีกรรมเพื่อปลดปล่อยวิญญาณของผีไต้ทะเล วิญญาณนั้นก็หายไปพร้อมกับแสงสว่างที่สวยงาม และเสียงร้องเรียกแห่งความเศร้าโศกก็หายไปจากหมู่บ้านนั้นตลอดกาล
เรื่องราวของสมชายกับผีไต้ทะเลได้กลายเป็นตำนานในหมู่บ้าน และชาวบ้านต่างก็รู้สึกขอบคุณสมชายที่ได้ช่วยปลดปล่อยวิญญาณที่ไม่สงบให้ได้กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง และจากนั้นเป็นต้นมา หมู่บ้านชายทะเลแห่งนี้ก็ไม่เคยได้ยินเสียงร้องเรียกแห่งความเศร้าโศกจากทะเลอีกเลย.