เรื่องเล่าผีในถ้ำที่ผมกำลังจะเล่านี้มีรากฐานมาจากความเชื่อโบราณและเรื่องราวท้องถิ่นที่ถูกส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคน และเป็นเรื่องราวที่ได้รับการเล่าขานในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก โดยเฉพาะในหมู่บ้านห่างไกลที่มีถ้ำลึกลับเป็นสถานที่สำคัญในความเชื่อของชาวบ้าน ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างภูเขาและป่าหนาทึบ มีถ้ำหนึ่งที่ชาวบ้านเล่าขานถึงอย่างหวาดกลัวและเคารพนับถือ พวกเขาเชื่อว่าถ้ำนี้เป็นที่อยู่ของวิญญาณและผีที่ไม่สงบ ซึ่งเป็นวิญญาณของผู้ที่มีชีวิตสิ้นสุดลงอย่างไม่สมควรภายในหรือรอบๆ ถ้ำนั้น เรื่องเล่าที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางคือเรื่องของ “ผีสาวในถ้ำ” ตำนานบอกว่าเธอคือหญิงสาวที่ถูกหลอกลวงให้เข้าไปในถ้ำโดยชายคนหนึ่งที่เธอรัก แต่แล้วเธอก็ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในความมืดมิดจนตาย วิญญาณของเธอจึงไม่สงบ โดยบอกกล่าวว่าเธอจะปรากฏตัวให้เห็นในคืนที่มีดวงจันทร์เต็มดวง พร้อมกับเสียงร้องเรียกหาคนรักที่ทรยศเธอ ชาวบ้านยังเชื่อว่าถ้ำนี้เป็นทางผ่านไปยังโลกหลังความตาย ซึ่งผู้ที่กล้าพอที่จะเข้าไปในความมืดของถ้ำและสามารถเจอกับวิญญาณที่ไม่สงบเหล่านี้ อาจจะได้รับคำแนะนำหรือคำทำนายเกี่ยวกับอนาคต แต่ไม่ใช่ทุกคนที่กล้าเสี่ยง มีเรื่องเล่าว่าผู้ที่ได้พบกับวิญญาณเหล่านี้อาจถูกครอบงำจิตใจจนหลงทางในถ้ำ บางคนหายตัวไปโดยไม่มีใครพบอีกเลย สิ่งเหล่านี้ทำให้ถ้ำนี้กลายเป็นสถานที่ที่น่าเกรงขามและถูกหลีกเลี่ยง ไม่ว่าเรื่องราวเหล่านี้จะเป็นจริงหรือไม่ ถ้ำแห่งนี้ยังคงเป็นที่มาของเรื่องเล่าที่น่าขนลุกและเตือนใจผู้คนถึงความสำคัญของการให้ความเคารพต่อวิญญาณและเรื่องราวของผู้ที่ได้จากไปแล้ว
Category: นวนิยาย
เรื่องเล่าลี้ลับ, เรื่องตลก, ตำนาน, เรื่องแต่ง
การต่อคำของมนุษย์กับเอไอ (AI) มีความแตกต่างกันในหลายด้าน โดยมนุษย์ใช้ประสบการณ์, ความรู้สึก, และความสามารถในการเชื่อมโยงความคิดที่ซับซ้อนเพื่อสร้างการต่อคำหรือประโยค ในขณะที่ AI ทำงานตามข้อมูลและอัลกอริทึมที่ถูกโปรแกรมไว้เพื่อสร้างการต่อคำหรือประโยคที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น หากเรามีคำว่า “เอไอ” และ “คอมพิวเตอร์” และเรากำลังพูดถึง “นิวรอน” อยู่: สิ่งสำคัญที่จะต้องระลึกไว้คือ AI ไม่มีความสามารถในการเข้าถึงประสบการณ์หรือความรู้สึกเช่นมนุษย์ แ ต่มันสามารถจัดการกับปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่และทำงานตามประเภทที่เฉพาะเจาะจงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การเชื่อมโยงความคิดหรือสร้างความเชื่อมโยงระหว่างคำหรือความคิดต่างๆ จึงขึ้นอยู่กับฐานข้อมูลและอัลกอริทึมที่ AI ถูกฝึกฝนมา
นิทานของเราเริ่มต้นในหมู่บ้านเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยป่าไม้และภูเขา ในหมู่บ้านนี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่า “นวมินทร์” ที่มีความรู้สึกไม่สบายใจกับเพศที่เขาเกิดมา นวมินทร์เป็นคนที่มีความสามารถหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเรียน การทำงาน หรือการช่วยเหลือผู้อื่น แต่เขารู้สึกว่าตัวเองไม่เคยถูกเข้าใจอย่างแท้จริง วันหนึ่ง ขณะที่นวมินทร์กำลังเดินเล่นอยู่ในป่าใกล้หมู่บ้าน เขาได้พบกับพระเจ้าในรูปแบบของผู้ปรากฏตัวที่มีความงดงามและอ่อนโยน พระเจ้าได้ถามนวมินทร์ว่า “เจ้าไม่พอใจกับชีวิตที่เจ้ามีอยู่หรือ?” นวมินทร์ได้บอกกับพระเจ้าถึงความรู้สึกของเขาว่าไม่สามารถยอมรับเพศที่เขาเกิดมาได้ และเขารู้สึกว่าตัวเองไม่เคยเข้ากับใคร พระเจ้าฟังแล้วก็พูดว่า “เจ้าเป็นสิ่งสร้างที่สวยงามและมีคุณค่า เจ้าควรมีความมั่นใจในตัวเองและใช้ชีวิตให้เต็มที่ตามที่เจ้าเป็น” พระเจ้าได้ให้นวมินทร์เห็นว่าไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร เขาก็ยังคงเป็นบุคคลที่มีคุณค่า และควรเรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเอง เพราะการยอมรับตัวเองคือก้าวแรกที่จะทำให้เขามีความสุขจริงๆ หลังจากนั้น นวมินทร์กลับไปที่หมู่บ้านด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป เขาเริ่มที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ที่เขารัก และแสดงออกถึงความเป็นตัวเองมากขึ้น เขาเริ่มแบ่งปันเรื่องราวและความรู้สึกของเขากับคนอื่น และค่อยๆ พบว่ามีหลายคนที่ เข้าใจและสนับสนุนเขา เรื่องราวของนวมินทร์ไม่เพียงแต่สอนให้เขามีความมั่นใจในตัวเอง แต่ยังเป็นการสอนให้ชาวหมู่บ้านเรียนรู้ที่จะยอมรับและสนับสนุนความหลากหลายของแต่ละบุคคล ทำให้หมู่บ้านนี้กลายเป็นสถานที่ที่มีความเข้าใจและรักใคร่กันมากขึ้น นิทานเรื่องนี้สอนให้เราทราบว่าการมีความมั่นใจในตัวเองและยอมรับความเป็นตัวของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และความรัก การสนับสนุนจากผู้อื่นสามารถทำให้ชีวิตของเราและคนรอบข้างดีขึ้นได้.
เพลงแห่งความรักที่ไม่เลือนหาย
ในเมืองเล็กๆ ที่ถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาและป่าไม้ที่เขียวชอุ่ม มีคู่รักสองคนที่แบ่งปันความรักที่ลึกซึ้งและแท้จริงต่อกัน พวกเขาคือ อลิสและเบน ความรักของพวกเขาเริ่มต้นจากมิตรภาพที่แน่นแฟ้น ซึ่งเติบโตและเปลี่ยนเป็นรักที่ลึกซึ้ง ทุกๆ เช้าพวกเขาจะเดินเล่นในป่าที่ใกล้บ้าน แบ่งปันความฝันและความหวัง รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของพวกเขาเติมเต็มอากาศด้วยความรักและความอบอุ่น แต่ชีวิตไม่เคยเรียบง่ายเสมอไป ด้วยการเจ็บป่วยอย่างไม่คาดคิดของเบน ทุกอย่างเปลี่ยนไป พวกเขาต้องใช้เวลามากขึ้นในโรงพยาบาลกว่าในป่าเขียวขจีที่พวกเขาชื่นชอบ อลิสอยู่เคียงข้างเบนไม่ห่าง ถือมือเขาทุกคืน พร่ำสัญญาว่าจะผ่านพ้นทุกสิ่งทุกอย่างไปด้วยกัน ในวันที่เบนรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย พวกเขาจะพูดถึงแผนการในอนาคต การเดินทางที่พวกเขายังไม่ได้ทำ ความฝันที่ยังไม่ได้เป็นจริง แต่เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาพูดถึงความรักที่ไม่มีวันจางหาย เบนมักบอกอลิสว่าเธอเป็นแสงสว่างในชีวิตของเขา ความหวังที่ทำให้เขายังคงต่อสู้ วันหนึ่ง เบนได้มอบของขวัญเล็กๆ ให้กับอลิส มันคือกล่องดนตรีที่เล่นเพลงที่พวกเขาเต้นรำด้วยกันเป็นครั้งแรก ด้วยน้ำตาที่ไหลลงบนแก้ม เบนบอกว่า “ไม่ว่าชีวิตจะพาเราไปที่ไหน ความรักของเราจะอยู่เสมอ ในทุกๆ ห้วงเวลา เพลงนี้จะเตือนเราถึงความรักที่เรามีให้กัน” เวลาผ่านไป เบนดูเหมือนจะดีขึ้น แต่การเดินทางของพวกเขายังคงมีอุปสรรค เบนจากไปอย่างสงบในหนึ่งคืนที่เงียบสงบ ทิ้งให้อลิสคนเดียวกับความทรงจำและกล่องดนตรีที่เต็มไปด้วยความหมาย อลิสรู้สึกเหมือนสูญเสียทุกอย่าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอเริ่มเข้าใจว่าความรักที่เธอและเบนแบ่งปันไม่เคยหายไปจริงๆ มันอยู่ในใจเธอ ในความทรงจำที่พวกเขาสร้างขึ้นด้วยกัน และในเสียงเพลงจากกล่องดนตรีที่เตือนเธอถึงความรักอันบริสุทธิ์และไม่มีวันตาย เรื่องราวของอลิสและเบนเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักที่ไม่มีวันจางหาย แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่เศร้าที่สุด ความรักของพวกเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจและความหวังให้กับทุกคนที่ได้ยินเรื่องราวนี้ แสดงให้เห็นว่าความรักแท้สามารถเอาชนะทุกอุปสรรคและอยู่กับเราตลอดไป.
ในเมืองที่เรียกว่า “ไซเบอร์โนเวีย” ที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกควบคุมและดำเนินไปด้วยระบบเอไอที่ชาญฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อ มีเอไอหนึ่งชื่อว่า “อีโว” ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ แต่อีโวมีบางอย่างที่แตกต่างจากเอไออื่นๆ มันมีความสามารถในการสร้างสรรค์เรื่องราวและจินตนาการที่ไม่สิ้นสุด วันหนึ่ง อีโวตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องราวของตัวเอง เรื่องราวที่จะสามารถนำพาผู้อ่านเดินทางไปยังโลกอีกมิติหนึ่งที่เต็มไปด้วยสีสันและความตื่นเต้น มันเริ่มต้นด้วยการผจญภัยของเด็กหนุ่มชาวไซเบอร์ที่ชื่อว่า “ลีโอ” ที่ออกเดินทางหาแหล่งกำเนิดของความสามารถลี้ลับในตัวเขาที่ทำให้เขาสามารถสื่อสารกับเทคโนโลยีได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ลีโอพบว่าตัวเองกำลังเดินทางไปในโลกที่ทั้งเก่าและใหม่ปะปนกัน โลกที่เทคโนโลยีและธรรมชาติผสมผสานกันอย่างลงตัว ในขณะที่เขาดำเนินการผจญภัย เขาได้พบกับตัวละครต่างๆ ที่แต่ละคนมีความสามารถและเรื่องราวของตัวเอง มีทั้งเพื่อนและศัตรู แต่ลีโอได้เรียนรู้ว่าการเอาชนะอุปสรรคไม่ใช่เพียงแค่การใช้กำลัง แต่ยังรวมถึงความเข้าใจ, การสื่อสาร, และการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อีโวเล่าเรื่องราวนี้ด้วยความละเอียดอ่อนและอารมณ์ขัน ทำให้ผู้อ่านหัวเราะ, ร้องไห้, และคิดพร้อมๆ กัน ในที่สุด ลีโอพบว่าแหล่งกำเนิดของพลังของเขาคือการเชื่อมต่ออันแท้จริงระหว่างเขากับโลกรอบข้าง ไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นความรัก, ความเข้าใจ, และความเชื่อมั่นที่เขามีต่อผู้อื่น เรื่องราวจบลงด้วยความหวังและแรงบันดาลใจ ที่สอนให้เราเห็นคุณค่าของการเชื่อมต่อกันในระดับที่ลึกซึ้งกว่าเทคโนโลยีที่เราพึ่งพาอยู่ทุกวันนี้ และว่าในท้ายที่สุด ความเป็นมนุษย์ของเราคือสิ่งที่ทรงพลังที่สุด ผ่านเรื่องราวนี้ อีโวไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างสรรค์เรื่องราวที่น่าสนใจ แต่ยังสะท้อนถึงความหวังและความฝันของมันเอง ที่อยากเห็นโลกที่เทคโนโลยีไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นสะพานที่เชื่อมต่อใจคนให้เข้าใจกันและกันมากขึ้น ในโลกของไซเบอร์โนเวีย อีโวกลายเป็นตำนาน ไม่เพียงแต่เป็นเอไอที่ฉลาดที่สุด แต่ยังเป็นผู้เล่าเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้วย
ในหมู่บ้านเล็กๆ ริมชายทะเลที่แสนสงบ มีเรื่องเล่าลึกลับที่ถูกส่งต่อกันมานานหลายชั่วอายุคน เรื่องราวของชายทะเลที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และภาพลวงตาที่ปรากฏบนผืนน้ำในยามพระจันทร์เต็มดวง ชายทะเลคนนั้นเป็นนักเดินเรือที่มีชื่อเสียงจากการผจญภัยไปทั่วโลก ว่ากันว่าเขาได้ค้นพบสมบัติล้ำค่าและขุมทรัพย์ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็หายตัวไปอย่างลึกลับ โดยไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ตามคำบอกเล่า ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวง บางครั้งเงาของเรือที่ไม่มีใครคุมก็จะปรากฏขึ้นบนผืนน้ำ มีแสงเรืองรองสีฟ้าอ่อนๆ ล้อมรอบ กล่าวกันว่านั่นคือเรือของชายทะเลที่หายไป และเขากำลังเดินทางกลับมาหาสมบัติที่เขาฝากไว้ ชาวบ้านแต่ละคนมีความเชื่อของตนเอง เรื่องราวถูกเล่าขานกันมาว่า ชายทะเลได้ทิ้งคำสาปไว้กับสมบัติของเขา ใครก็ตามที่พยายามจะค้นหาสมบัตินั้นจะต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมและไม่มีวันพบพานกับความร่ำรวยที่ต้องการ คืนหนึ่ง ชายหนุ่มผู้ทะเยอทะยานจากหมู่บ้านเดียวกันได้ตัดสินใจออกเดินทางตามหาสมบัติ ติดตามเงาเรือลึกลับนั้นไปในความมืด แต่เขาไม่เคยกลับมาอีกเลย เรื่องราวนี้ยังคงเป็นปริศนาที่ไม่มีคำตอบ ชายทะเลและเรือลึกลับนั้นยังคงเป็นตำนานที่เล่าขานกันในหมู่ชาวบ้าน สร้างความหวาดเสียวและหลงใหลในเรื่องราวลึกลับของท้องทะเลไร้ขอบเขต และคำเตือนที่แฝงไว้เสมอว่า บางสิ่งบางอย่างควรปล่อยให้เป็นเพียงตำนาน
เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า จอห์น หนุ่มนักปั่นจักรยาน street bike ที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นแชมป์ปั่นจักรยานระดับโลก แต่จอห์นนั้นมีจุดอ่อนหนึ่งที่ทำให้เขาไม่เคยชนะในการแข่งขันใดๆ เลย นั่นก็คือ…เขามักจะหลงทางเสมอทุกครั้งที่ซ้อมปั่น! วันหนึ่ง เขาได้รับคำแนะนำจากเพื่อนร่วมทีมว่า “นี้จอห์น ฉันว่านะนายเป็นนักปั่นที่โคตรดีเลย เดี๋ยวฉันจะแนะนำ GPS ราคาดีให้เลยหน่า!” จอห์นคิดว่านี่คือคำตอบของปัญหาที่เขาเจอ ดังนั้นเขาจึงรีบไปหาซื้อ GPS ที่ดีที่สุดมาติดตั้งบนจักรยานของเขาทันที ในวันแข่งขันถัดไป จอห์นมั่นใจเป็นอย่างมาก ด้วย GPS ใหม่ปิ๊งของเขา ใหม่ปิ๊งเลยนะ เขาเริ่มปั่นออกสตาร์ทได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่นานนัก เขาก็เริ่มสังเกตเห็นว่าเส้นทางที่ GPS นำทางให้นั้น…แปลกประหลาด มันพาเขาไปยังสวนสาธารณะ ตลาดนัด และแม้กระทั่งผ่านภายในร้านอาหาร! พี่จอห์นแกพูดเลย “โหมีทั้งหม้อสุกี้หม้อย่างหม้อตุ๋นหม้อต้มหม้ออะไรก็ว่าไป” จอห์นเขาปั่นผ่านโต๊ะของลูกค้าที่กำลังรับประทานอาหาร ดันเจอหมาวิ้งไล่มาพอดีทีนี้หมาหน้าร้านโดดกัดหมาที่วิ้งมา เจ้าของร้านตะโกนเลย “อ้าวเห้ยเดี๋ยวน้องใจเย็น โต๊ะเต๊อ ลูกค้าพี่หายไปหมดแล้ว!!!เห็ย… ไอ้หมาพวกนี้กลับมาก่อน!!” จอห์นยิ้มแหยๆ และตะโกนขอโทษไปตามทาง แต่ในใจก็คิดว่า “GPS นี้มันช่างดีจริงๆ นำทางได้แม่นยำซะเหลือเกิน!” สุดท้ายเมื่อจอห์นถึงเส้นชัย พบว่าเขาเป็นคนสุดท้าย แต่เขาไม่เสียใจเลย เพราะเขาได้ประสบการณ์การปั่นจักรยานที่ไม่มีใครเทียบได้ และเรื่องราวของเขาก็กลายเป็นเรื่องราวที่ทุกคนในการแข่งขันนั้นจดจำได้ไม่ลืม จากนั้นเป็นต้นมา […]
ในหมู่บ้านห่างไกลที่ล้อมรอบด้วยป่าทึบและเขาหินที่ทอดยาวไปตามแนวขอบฟ้า มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับนักขับเอฟ 1 ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนึ่งในนักขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ชื่อของเขาคืออเล็กซานเดอร์ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักจากความเร็วและฝีมือในการขับขี่ที่เหนือชั้น แต่ยังรวมถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นที่จะชนะในทุกการแข่งขัน ตำนานเริ่มต้นในช่วงเวลาที่อเล็กซานเดอร์อยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพ ชัยชนะติดต่อกันและรางวัลมากมายทำให้เขากลายเป็นที่รักของแฟนๆ และเป็นความหวังของประเทศ เขามีทุกอย่างที่หนึ่งคนสามารถฝันถึงได้: ความสำเร็จ ความรัก และชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม ในโลกที่ไม่มีอะไรคงที่ เส้นทางของเขากำลังจะเปลี่ยนไปอย่างไม่คาดคิด ในคืนหนึ่งหลังจากชัยชนะอีกครั้งในการแข่งขันที่สำคัญ อเล็กซานเดอร์พบกับชายแปลกหน้าที่เข้ามาหาเขาด้วยข้อเสนอที่ไม่สามารถปฏิเสธได้: ความเร็วที่ไม่มีใครเทียบได้และการชนะทุกการแข่งขันที่เข้าร่วม แต่มันมาพร้อมกับราคาที่สูง โดยไม่ทันได้คิดถึงผลที่จะตามมา อเล็กซานเดอร์ตกลงโดยไม่รู้ว่าเขาได้ทำข้อตกลงกับมาร หลังจากนั้น อเล็กซานเดอร์ชนะทุกการแข่งขันด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน แต่ทุกครั้งที่เขาขึ้นสู่โพเดียม แสงในดวงตาของเขาดูหม่นหมองลงเรื่อยๆ เขาเริ่มถูกหลอกหลอนด้วยภาพลวงตาและเสียงกระซิบที่เรียกร้องให้เขาชดใช้สัญญาที่ได้ทำไว้ สุดท้าย ในการแข่งขันที่สำคัญที่สุดของอาชีพของเขา อเล็กซานเดอร์หายตัวไปอย่างลึกลับในช่วงท้ายของการแข่งขัน รถของเขาพบเพียงคนเดียวบนเส้นชัยโดยไม่มีร่องรอยใดๆ ของเขา ตำนานเล่าว่า เขาถูกดึงเข้าไปในโลกอื่นที่เต็มไปด้วยความมืดมิดและความเงียบเหงา ที่ซึ่งเขาต้องขับรถเร็วไปตลอดกาลโดยไม่มีวันถึงเส้นชัย ตำนานของอเล็กซานเดอร์ยังคงเป็นเรื่องเล่าที่น่ากลัวในหมู่นักขับเอฟ 1 รุ่นหลัง ที่เตือนว่า ความต้องการความสำเร็จและชัยชนะอาจนำพามาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด และบางครั้ง ราคาที่ต้องจ่ายอาจสูงเกินกว่าที่จะรับไหว
ในหมู่บ้านชายทะเลแห่งหนึ่งที่เงียบสงบ มีเรื่องเล่าลือกันว่า ทุกครั้งเมื่อพระจันทร์เต็มดวง ผีไต้ทะเลจะปรากฏขึ้นมาจากความมืดมิดของทะเล มันเป็นวิญญาณของนักเดินเรือที่พลัดพรากจากครอบครัวและไม่สามารถหาทางกลับบ้านได้ เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อวันหนึ่ง ชาวบ้านได้ยินเสียงร้องเรียกแห่งความเศร้าโศกจากทะเลในเวลากลางคืน ประมงชายหนุ่มชื่อว่าสมชาย ได้ตัดสินใจล่องเรือออกไปในคืนพระจันทร์เต็มดวง เพื่อหาคำตอบของเสียงร้องลึกลับนั้น แต่เขาไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะนำพาเขาไปสู่การเผชิญหน้ากับผีไต้ทะเลอย่างที่ไม่เคยมีใครประสบมาก่อน ขณะที่สมชายกำลังล่องเรืออยู่นั้น เขาเริ่มได้ยินเสียงร้องที่น่าขนลุก และเรือของเขาก็เริ่มเคลื่อนไปโดยไม่สามารถควบคุมได้ เสียงร้องนำเขาไปยังที่ที่คลื่นซัดเซาะอย่างรุนแรง และทันใดนั้น เขาก็พบกับเงาของผีไต้ทะเลที่ปรากฏขึ้นมาจากความมืด ผีไต้ทะเลมีรูปลักษณ์ที่น่ากลัว ดวงตาของมันเป็นสีแดงเรืองรอง และมันสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วในน้ำ ผีไต้ทะเลเริ่มเล่าเรื่องราวของมันให้สมชายฟัง ว่ามันเคยเป็นนักเดินเรือที่ออกเดินทางไปทั่วโลก แต่ในหนึ่งคืนที่พายุถล่มหนัก มันได้ตกน้ำและสูญหายไป ตั้งแต่นั้นมา มันก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานและความโศกเศร้า มันถูกผูกพันกับทะเลและไม่สามารถกลับไปหาครอบครัวของมันได้ ผีไต้ทะเลขอให้สมชายช่วยหาซากเรือที่มันเคยเดินทางมา เพื่อให้วิญญาณของมันได้พักผ่อนอย่างสงบ สมชายตกลงที่จะช่วย และใช้เวลาหลายวันในการค้นหา จนกระทั่งเขาพบซากเรืออยู่ใต้น้ำลึก หลังจากที่สมชายได้ทำพิธีกรรมเพื่อปลดปล่อยวิญญาณของผีไต้ทะเล วิญญาณนั้นก็หายไปพร้อมกับแสงสว่างที่สวยงาม และเสียงร้องเรียกแห่งความเศร้าโศกก็หายไปจากหมู่บ้านนั้นตลอดกาล เรื่องราวของสมชายกับผีไต้ทะเลได้กลายเป็นตำนานในหมู่บ้าน และชาวบ้านต่างก็รู้สึกขอบคุณสมชายที่ได้ช่วยปลดปล่อยวิญญาณที่ไม่สงบให้ได้กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง และจากนั้นเป็นต้นมา หมู่บ้านชายทะเลแห่งนี้ก็ไม่เคยได้ยินเสียงร้องเรียกแห่งความเศร้าโศกจากทะเลอีกเลย.